วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

องค์ประกอบการสรรหาบุคลากร


การสรรหาบุคลากรจะต้องมีองค์ประกอบ ด้านคือ


1. ต้องมีการสื่อสาร เช่น การโฆษณารับสมัคร การติดประกาศที่บริษัท และแหล่งต่างๆ
การสื่อสารผ่านพนักงานในบริษัท ฯลฯ

2. ผู้หางานต้องมีบุคลิกภาพและทักษะตรงกับความต้องการในตำแหน่งงานนั้น

3. ผู้หางานต้องมีแรงจูงใจที่จะสมัครงาน

การสรรหาบุคคลจะมีประสิทธิภาพได้นั้น ผู้บริหารงานบุคคลควรทราบถึงรายละเอียดของงานใน

ตำแหน่งที่จะสรรหาเสียก่อน โดยทำการวิเคราะห์งานในองค์กร อันเป็นกระบวนการพื้นฐานที่ทำให้

ทราบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับรายละเอียดของงานในตำแหน่งที่จะสรรหา และทราบถึงระดับของทักษะที่ผู้

สมัครควรจะมี ผลจากการวิเคราะห์งานจะนำมาจัดทำคำบรรยายลักษณะงาน ซึ่งเป็นข้อความที่ประกอบ

ด้วยรายละเอียดของงาน สภาพแวดล้อมในการทำงานและเงื่อนไขในการจ้างงาน ในรายละเอียดใบ

กำหนดหน้าที่งานจะทำให้ทราบว่าควรจะสรรหาบุคคลอย่างไรและจากแหล่งใด จากนั้นจึงระบุ

คุณสมบัติเฉพาะของงาน ข้อความที่แสดงคุณสมบัติขั้นต่ำที่จะพึงรับได้ของบุคลากรที่จะทำงานนั้น

อย่างได้ผลตามที่ต้องการ คุณสมบัติขั้นต่ำดังกล่าวได้แก่ ความรู้ ความชำนาญ และความสามารถในการ

ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แล้วจึงดำเนินการสรรหาเพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณลักษณะตรงตามเป้าหมาย 

หรือความต้องการขององค์กรนั้นๆ

เนื่องจากการวางแผนกำลังคนมีความสำคัญกับหลายระดับงาน ดังนั้นจึงต้องเริ่มต้นจากการวางแผนการ

สรรหาบุคลากร ซึ่งประกอบด้วย 3 องค์ประกอบที่ต้องพิจารณา คือ เวลา เงิน และจำนวนพนักงานที่

ต้องการกับอัตราการจ้างที่กำหนด โดยใช้สถิติพื้นฐานในการประเมิน คือ จำนวนคนที่ต้องการจ้างใน

เวลาที่กำหนดซึ่งเป็นวิธีการหาสัดส่วนการจ้างงานที่ง่ายที่สุด และเป็นการใช้หลักและประสบการณ์การ

สรรหาบุคลากรที่ผ่านมาช่วยในการพิจารณา ถ้าข้อมูลเหล่านี้ถูกต้องแล้วจะไม่เกิดปัญหาเรื่องสัดส่วน

จำนวนคนและเวลาที่ใช้ในการสรรหาบุคลากร เพราะสามารถสร้างแนวโน้มและประเมินกำลังคนที่

เหมาะสมได้ โดยสรุปเปรียบเทียบกับสภาวะตลาดแรงงาน วิธีการหาอัตราส่วนกำลังคน (Yield 

Ratios) คือ อัตราส่วนจำนวนใบสมัครที่คัดเลือก , อัตราส่วนจำนวนคนที่เรียกมา

สัมภาษณ์ , อัตราส่วนจำนวนคนที่มาสัมภาษณ์ , อัตราส่วนจำนวนคนที่บริษัทเสนอจ้างงานในช่วงระยะ

เวลาหนึ่ง อีกวิธีหนึ่งของการหาข้อมูลที่จะนำไปวางแผนการสรรหาบุคลากร คือ ข้อมูลของช่วงเวลา

สรรหาบุคลากร (Time-lapse data) เช่น การขยายเวลาของการเสนอข้อตกลงแก่ผู้สมัคร , การรับเข้า

ทำงาน และระบบเงินเดือน ถ้าไม่มีข้อมูลเดิมสนับสนุน ก็จำเป็นต้องใช้การคาดเดาหรือตั้งสมมติฐานและ

วัดผลการทดสอบตามขั้นตอนการปฏิบัติงานของแผนการสรรหาที่ปฏิบัติจริง

การสรรหาและคัดเลือกบุคลากร

การสรรหาพนักงานและการวิเคราะห์ต้นทุน (Staffing Recruitment & Cost Analysis)

ในการประเมินระยะเวลาในการสรรหาอยู่ที่พื้นฐานของประสบการณ์

การสรรหาที่ผ่านมาของผู้สรรหา อย่างไรก็ตามควรที่จะพิจารณาถึงปัจจัยหลายๆ

ด้านก่อนที่แผนงานจะเสร็จสมบูรณ์สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือต้นทุนการวิเคราะห์ตลาดแรงงาน

ภายนอกจากแหล่งสรรหาบุคคล จะมีลักษณะเช่นเดียวกับการวิเคราะห์ความต้องการบุคลากรของบริษัท

คู่แข่ง สภาพแวดล้อมต่างๆ ถูกนำมาประเมินเพื่อที่จะศึกษาถึงข้อได้เปรียบขององค์กร ข้อความต่างๆ จะ

ถูกนำมาประเมิน รวมทั้งปัจจัย

ทางภูมิศาสตร์ , ที่ตั้งขององค์กร , ค่าครองชีพ , ที่พักอาศัย , ความใกล้เคียงศูนย์การค้า , โรงเรียนมัธยม

 และโรงเรียนท้องถิ่น และอื่นๆ ที่เท่าเทียมกันโดยรวมแล้วองค์กรควรที่จะใช้ประโยชน์จากปัจจัยพิเศษ

อื่นๆ ที่มีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้สมัครเช่น ภาพพจน์ขององค์กร ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการ

พัฒนากลยุทธ์การสรรหาต่อไป

ในอนาคตและเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการประเมินผลการสรรหาและยังเป็นสมมติฐานที่

ทดสอบได้เกี่ยวกับคู่แข่งขององค์กร หรือข้อมูลที่มีอยู่เกี่ยวกับการสรรหาเมื่อนำปัจจัยเหล่านี้มา

พิจารณาYield ratios และ Time – lapse data เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการประเมินการสรรหาพนักงานและ

ระยะเวลาที่ใช้ในการวางแผนการสรรหาจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อต้นทุนของกลยุทธ์ที่ใช้ในการสรรหารวม

ทั้งการวิเคราะห์อย่างรอบคอบถึง ค่าใช้จ่ายจากแหล่งต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดสิ่งไม่คาดฝันที่จะเกิดขึ้น

ในภายหน้าโดยสรุป การวิเคราะห์ต้นทุน (Cost) เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาว่าที่ไหน เมื่อไหร่

และอย่างไร ที่องค์กรจะเริ่มเข้าไปสู่ตลาดแรงงานโดยทั่วๆ ไป การตัดสินใจในเรื่อง ต้นทุนต่อการจ้างงาน

โดยรวม (Gross–cost–per–hire) จะพิจารณาจากการนำต้นทุนทั้งหมดของการสรรหา (TCOR) หารด้วย

จำนวนของพนักงานที่จ้างเข้ามา














 อ้างอิง

http://th.wikipedia.org

การสรรหาและการคัดเลือก

การสรรหาบุคลากร (Recruitment)




                  กระบวนการในการค้นหาบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งที่องค์การต้องการจากแหล่งต่างๆให้สนใจสมัครเข้าร่วมงานกับองค์การ  โดยผู้มีหน้าที่ในการสรรหาบุคลากรจะต้องสามารถเข้าถึงแหล่งที่มาของบุคลากร  ดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพเหมาะสมกับงานให้เกิดความสนใจที่จะร่วมงานกับองค์การอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ข้อจำกัด  ของระยะเวลาและค่าใช้จ่าย







ระบบของการสรรหา  มีด้วยกัน  2  ระบบ
1.ระบบคุณธรรม (Merit  System)
            เป็นระบบที่ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารทรัพยากรมนุษย์มากที่สุด  เพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้  ความสามารถเข้ามาปฏิบัติงานโดยเน้นให้ความเป็นธรรม โดยยึดแนวทาง  4  ประการ
  • หลักความเสมอภาค
  • หลักความสามารถ
  • หลักความมั่นคง
  • หลักความเป็นกลาง                                                                                                                          
2.ระบบอุปถัมภ์
            เป็นระบบเล่นพรรคเล่นพวก หรือการใช้อิทธิพลบารมีของผู้มีอำนาจในการคัดเลือกบุคลากร  ไม่คำนึงถึงความยุติธรรม  หรือความเป็นเหตุเปฌนผลในการพิจารณาดำเนินการคัดเลือก


ข้อดี-ข้อเสียของการสรรหา แบ่งได้เป็น 2 ประเภท


  • การสรรหาจากภายนอก
  • การสรรหาจากภายใน
การสรรหาจากภายนอก 


  • ข้อดี
          *สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้กับพนักงาน
          *ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหาบุคลากรขององค์การ


  • ข้อเสีย
          - ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนความคิดสร้างสรรค์ในการประเมินโอกาส การแก้ปัญหา  และการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆทางธุรกิจ
          - ไม่สามารถสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้ามาปฎิบัติหน้าทีี่ที่ต้องการได้
          -  ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรขึ้นภายในองค์การ
การสรรหาจากภายนอก


  • ข้อดี
          *สร้างความหลากหลายในการวิเคราะห์โอกาส  การแก้ปัญหาและการพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจ
          *สร้างโอกาสในการคัดเลือกบุคลากรที่มีความเหมาะสมในแต่ละหน้าที่งาน
          *แก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรภายในองค์การทั้งในด้านของจำนวน และคุณสมบัติ


  • ข้อเสีย
          *สิ้นเปลื่องเวลาและค่าใช้จ่ายในการเตรียมการขององค์การ
          *มีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของบุคลากร
          *ไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศในการปฏิบัติงานขององค์การ




วิธีการสรรหาจากภายในองค์การ
  • การปิดประกาศตำปหน่งที่ว่าง (Job Posting)
  • การรับสมัครแข่งขันเพื่อบรรจุตำแหน่งงาน (Job Bidding)
  • การเสนอแนะของพนักงานในองค์การ 
  • ระบบการบันทึกข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
วิธีการสรรหาจากภายนอกองค์การ
  • คำแนะนำจากบุคลากรปัจจุบัน
  • บุคคลที่เคยปฏิบัติงานกับองค์การ
  • บุคคลที่เดินเข้ามาสมัครงานกับองค์การ
  • ประกาศรับสมัคร
  • สถาบันการศึกษา
  • สมาคมวิชาชีพ
  • องค์การด้านแรงงาน
  • สำนักงานจัดหางาน
  • การจูงใจผู้มีความสามารถจากหน่วยงานอื่น
  • การจ้างงานชั่วคราว
  • วิธีการอื่นๆ เป็นต้น



คลิปการสรรหาบุคลากร 






ปรัชญาการบริหารทรัพยากรมนุษย์  ได้แก่
  • เชื่อว่าถ้าในองค์การประกอบด้วยสมาชิกที่มีความรู้ ความสามารถ จะทำให้องค์การพัฒนาและเจริญเติบโต จากแนวคิดนี้ ถ้าผู้บริหารทรัพยากรมนุษย์เชื่อและยอมรับจะสรรหาบุคคลคนที่มีคุณสมบัติเหมาะกับงานเข้ามา ทำให้องค์การไม่เกิดปัญหาการปฏิบัติงาน
  • เชื่อว่าในองค์การประกอบด้วยสมาชิกที่มีความพึงพอใจระหว่างสมาชิกกับสมาชิกและระหว่างสมาชิกกับผู้บังคับบัญชาระดับต่างๆแล้วจะก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในองค์การได้
  • เชื่อว่าบุคคลซึ่งทำงานตรงกับความถนัด ความสามารถของตนแล้วจะเกิดความพึงพอใจและมีความสุขในการทำงาน ดังนั้นเพื่อให้เกิดผลดีในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์การพัฒนา การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งจึงมีความสำคัญ
  • เชื่อว่าบุคคลที่เข้ามาทำงานในองค์การนั้น มีส่วนช่วยเหลือให้องค์การมีการพัฒนาและการเจริญเติบโต
  • เชื่อว่าการประนีประนอม ประสานประโยชน์ระหว่างสมาชิกกับองค์การ และองค์การกับสังคม จะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกันและก่อให้เกิดความสงบสุขแก่สังคมโดยรวม
  • เชื่อว่าสภาพสังคมมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ วิทยาการใหม่ๆและความทันสมัยในความรู้ที่เปลี่ยนแปลงจึงเป็นสิ่งสำคัญ
  • เชื่อว่าองค์การเป็นระบบหนึ่งที่มีส่วนรับผิดชอบในสังคม






คลิป การพัฒนาทรัพยากรบุคคล




คลิปการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ตอนที่ 2





แหล่งอ้างอิง .. หนังสือเรียนวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ... ปี 2556 อาจารย์คณาทีป ชูช่วย
และ http://www.powervision.co.th